ประเพณีวัฒนธรรม



ที่มา https://today.line.me/th/v2/article/7NwZK7P



งานประเพณีแข่งเรือพิมาย



แต่เดิมแข่งที่ท่าน้ำบ้านวังหิน ต่อมาย้ายมาแข่งที่ลำตลาด ที่อำเภอพิมาย โดยจัดต่อเนื่องกันทุกปีจนถึงปัจจุบัน แต่เดิมเมื่อแต่ละหมู่บ้านทราบกำหนดการแข่งเรือล่วงหน้าก็จะฝึกซ้อมฝีพาย ซึ่งเป็นชายฉกรรจ์ในหมู่บ้านจนชำนาญ เมื่อใกล้ถึงวันแข่งเรือจะนำขึ้นมาขัดท้องเรือด้วยใบตองแห้ง เสร็จแล้วทาสีและลวดลายที่เรือและใบพาย แล้วทำพิธีไหว้เซ่นแม่ย่านางเรือเสร็จแล้วลากเรือลงน้ำฝีพายลงเรือโห่เอา ฤกษ์เอาชัย เรือแข่งของแต่ละหมู่บ้านจะมาพร้อมกันที่บริเวณสถานที่แข่งขันเมื่อพระฉัน จังหันแล้ว เมื่อได้เวลาเจ้าหน้าที่จะให้เรือแต่ละลำพาย แสดงตัวตามลำดับ ซึ่งจะเรียกชื่อตามที่มาถึงก่อนหลังตามชื่อเรือ เช่น มุนีจอมขวัญ เสมียนเสนาะเพราะสนั่นหมื่นสะท้านแผ่นดินไหว เป็นต้น เมื่อครบจำนวนแล้วจับสลากคู่แข่งกันในแต่ละประเภท โดยกำหนดที่ฝีพายเป็นเรือขนาดใหญ่ กลาง เล็ก แข่งขันจนกว่าจะได้เรือที่ชนะเลิศของแต่ละรุ่น ซึ่งขณะแข่งขันผู้ชมการแข่งขันสองฟากฝั่งจะโห่ร้องเมื่อเรือหมู่บ้านของตน ได้รับชัยชนะเป็นที่สนุกสนาน

ปัจจุบันประเพณีการแข่งเรือพิมาย นั้นได้พัฒนาการแข่งเรือแบบพื้นบ้านมาเป็นการแข่งเรือแห่งประเทศไทย และถูกผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของงานเทศกาลเที่ยวพิมายในเดือนพฤศจิกายนของทุกปี งานดังกล่าวถือเป็นหน้าตาของจังหวัดนครราชสีมา และนักท่องเที่ยวก็ให้ความสนใจมาเที่ยวชมงานเป็นจำนวนมาก กล่าวคือ เมื่อพูดถึงโคราชก็ต้องนึกถึงปราสาทหินพิมาย อีกทั้งอำเภอพิมายยังมีจุดเด่นอีกอย่าง คือ เทศกาลแข่งเรือ เพราะที่อำเภอพิมายมีลำน้ำจักราช ซึ่งเป็นลำน้ำกว้าง มีสายทางน้ำที่ยาว เป็นทางลำน้ำที่มีลักษณะตรงที่ยาวที่สุดในประเทศไทย และน้ำไม่ไหลเชี่ยว ผู้ชมสามารถนั่งชมการแข่งเรือได้ทั้งสองฟากฝั่ง ทำให้การแข่งเรือพิมายเป็นแบบอย่างการจัดการแข่งขันเรือ

ที่สำคัญคือ การแข่งเรือพิมาย นั้นเป็นการแข่งชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ โดยการแข่งขันจัดขึ้นในวันที่ 12-13 พฤศจิกายน 2554 ณ สนามแข่งเรือ ลำน้ำจักราช อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา นอกจากการแข่งเรือแล้ว ยังมีกิจกรรมการแสดง การแข่งขันรายการอื่นๆ อีกหลายรายการ



ที่มา https://mthai.com/travel/299713.html



วันฉลองแห่งชัยชนะท้าวสุรนารี



งานฉลองวันแห่งชัยชนะท้าวสุรนารี หรือ “งานย่าโม” เป็นงานประจำปีของจังหวัดนครราชสีมา กำหนดจัดระหว่างวันที่ 23 มีนาคม- 3 เมษายนของทุกปี ซึ่งถือเป็นวันที่คุณหญิงโมได้รับชัยชนะจากข้าศึก ในงานมีการแสดงศิลปวัฒนธรรมและมีกิจกรรมที่จัดขึ้นเพื่อเป็นการสักการะ การเคารพซึ่งวีรกรรมของคุณหญิงโม ทั้งนี้รูปแบบการจัดงานที่น่าสนใจมีมากมาย อาทิ ขบวนสักการะ และขบวนรำบวงสรวงคุณย่าโม การวิ่งคบไฟและจุดพลุ ในวันเปิดงาน การแสดงศิลปวัฒนธรรมของดีเมืองโคราช ย้อนยุคการจัดนิทรรศการ การออกร้านของส่วนราชการ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ สถานศึกษา และองค์กรเอกชนการแสดงและจำหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์ชุมชน อาหารพื้นเมือง การแสดงดนตรี คอนเสิร์ต ลูกทุ่งสตริง 12 วัน 12 คืน การแข่งขันกีฬาฟุตบอล บาสเกตบอล เซปักตระกร้อ ฯลฯ การประกวดนางสาวนครราชสีมา ประกวดร้องเพลง ประกวดสุขภาพเด็ก ประกวดวาดภาพโดยเด็กและเยาวชน ประกวดผลผลิตทางการเกษตร ชมการฉายภาพยนตร์บนกำแพง ชมฟรีตลอด 12 วัน 12 คืน

จังหวัดนครราชสีมาเป็นประตูสู่ภาคอีสานที่มีอาณาเขตใหญ่ที่สุดในประเทศไทย หลากกิจกรรมทางการท่องเที่ยวสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีความพร้อมในทุกๆด้าน เส้นทางการท่องเที่ยวที่สามารถเชื่อมโยงไปสู่พื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศอย่างง่ายดาย ดินแดนแห่งที่สุดของอารยธรรมโบราณ ที่สุดแห่งความเป็นธรรมชาติมรดกโลก ที่สุดแห่งความเป็นวัฒนธรรมอนุรักษ์และที่สุดของดินแดนแห่งการเรียนรู้ งานประเพณีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดงานหนึ่งของจังหวัดนครราชสีมา งานฉลองวันแห่งชัยชนะของท้าวสุรนารี ทุกภาคส่วนจะเนรมิตความเป็นจังหวัดนครราชสีมานำไปสู่ทุกสายตาภายในงาน ความสวยงามอันเป็นสีสันอันจะสร้างมิติแห่งการรับรู้ได้อย่างชัดเจน “เชิดชูวีรสตรีผู้กล้า เมืองอารยธรรมยุคหิน ถิ่นวัฒนธรรมขอม ส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมพื้นถิ่น ศิลปินพื้นบ้าน สืบสานการพัฒนา สู่ความยั่งยืน



ที่มา https://mgronline.com/travel/detail/9600000068401l



งานประเพณีแห่เทียนพรรษาโคราช



วันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 (ประมาณเดือนกรกฎาคมของทุกปี) เป็นวันเข้าพรรษา จังหวัดนครราชสีมา กำหนดจัดงานแห่เทียนพรรษาโคราชที่สำคัญงานหนึ่งในงานบุญเข้าพรรษา หรือบุญเดือน 8 ซึ่งถือเป็นงานบุญใหญ่ตามฮีตสิบสองหรือจารีตประเพณี 12 เดือน ของชาวอีสาน เพื่อนำเทียนพรรษาไปถวายวัดให้ภิกษุสามเณรได้ใช้จุดให้แสงสว่างยามศึกษาพระธรรมในเวลากลางคืน โดยเชื่อว่าผู้ร่วมงานจะได้รับอานิสงส์แรง ทำให้เกิดสติปัญญามองเห็นธรรม โดยก่อนถึงวันเข้าพรรษาชาวบ้านตามคุ้มวัดต่างๆ จะช่วยกันหล่อเทียนพรรษาแกะสลักตกแต่งอย่างวิจิตรพร้อมทั้งนำเทียนมาประดิษฐ์เป็นประติมากรรมเล่าเรื่องราวต่างๆ ในพระพุทธศาสนา เช่น พุทธประวัติและชาดก การเทิดพระเกียรติ และวัฒนธรรมประเพณีแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดนครราชสีมาตามแต่ความคิดสร้างสรรค์

เมื่อถึงวันงานแต่ละคุ้มวัดจะนำเทียนพรรษาเข้าร่วมขบวนแห่ไปตามถนนรอบเมือง พร้อมวงดนตรี และขบวนฟ้อนรำนำหน้าแห่ไปตามถนนรอบเมืองเพื่อให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ชมความงดงามอลังการของต้นเทียนพรรษา ซึ่งแต่ละต้นล้วนเกิดจากความเพียรพยายามของช่างเทียนที่มีความชำนาญ สร้างและแกะสลักต้นเทียนอันวิจิตรงดงาม กล่าวได้ว่าฝีมือของช่างเทียนโคราชนั้นไม่แพ้ใคร ก่อนจะไปรวมตัวกันเพื่อประกวดต้นเทียนพรรษาถ้วยรางวัลพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ณ บริเวณศาลากลางจังหวัด, สวนเมืองทอง สวนสุรนารี สวนอนุสรณ์สถานฯ และลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา



ที่มา https://www.bangkokbiznews.com/business/1049256



เทศการตรุษจีน นครราชสีมา(โคราช)



จัดขึ้นในช่วงปลายเดือนมกราคมถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ ณ บริเวณลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี และศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา กิจกรรมภายในงาน มีการแสดงมหรสพ การแสดงมังกร สิงโตเอ็งกอ รถลากขบวนแห่นิทรรศการวัฒนธรรมไทย-จีนของชมรมชาวจีนในจังหวัดนครราชสีมา มีการแจกอั่งเปา การออกร้านจำหน่ายสินค้าและอาหารขึ้นชื่อ

ภายใต้กิจกรรมสุดยิ่งใหญ่อลังการ "เจาะเวลาหาจิ๋นซี" เพื่อรำลึกถึงความพยายามที่ยิ่งใหญ่ของจักรพรรดิ์ สร้างผลงานให้ปรากฏมายังลูกหลานชาวจีนได้ภาคภูมิใจจนมาถึงยุคปัจจุบัน แบ่งพื้นที่ออกเป็น 6 โซน ประกอบไปด้วย โซนลิ๊ตเติ๊ง ไช่น่าทาวน์กับบรรยากาศการค้าขาย ลานอนุสาวรีย์เป็นพื้นที่สำหรับประกอบพิธีการไหว้เทพเจ้า สวนท้าวสุรนารีโชว์ประติมากรรมมังกรเต็งลั้งสีแดงขนาดใหญ่ ลานแสดงหลักเวทีสร้างฉากเป็น "พระราชวังต้องห้าม" มีองค์ประกอบเป็นทหารหุ่นดินเผา สวนอนุสรณ์สถานฯมีประติมากรรมหุ่นโคมไฟ มังกร หงส์ แปดเซียน และประติมากรรมมังกรเต็งลั้งหลากสี

มีร้านค้าอาหารอร่อยมากมายไว้บริการและการแสดงอุปรากรจีน ที่มีความอลังการของเครื่องแต่งกายและฉากในการแสดงที่ยิ่งใหญ่ หาดูได้ยากในยุคสมัยปัจจุบัน อีกทั้งการแสดงที่น่าสนใจ อาทิ ชมขบวน มังกร สิงโต และเอ็งกอพะบู๊ การแสดงมังกรไฟ และมินิไลท์แอนด์ซาวด์ พิธีต้อนรับเทพเจ้าแห่งโชดลาภไฉ่ซิงเอี้ย

กลับขึ้นไปด้านบนของหน้าเว็บ